Hetalia: Axis Powers - Liechtenstein

วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Qualcomm ประกาศซื้อกิจการ Scyfer พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี AI เต็มที่





   เทคโนโลยี Artificial intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นที่รู้กันดีว่า เจ้าตัวนี้มีข้อดีมากมาย เช่น เรียนรู้ด้วยตัวเองได้ สามารถพัฒนาได้แบบก้าวกระโดด มักถูกนำไปใช้เป็นสมองให้กับกับหุ่นยนต์ หรือนำมาใช้คำนวนหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับเรา หากคนที่นึกไม่ออกว่ามันคืออะไร ให้ลองนึกถึง ระบบสมองกลSkynet ที่ควบคุมกองทัพหุ่นยนต์ มายึดครองโลก จากเรื่อง คนเหล็ก (The Terminator) หรือ Jarvis ผู้ช่วยส่วนตัวของ Tony Stark ในหนัง IRON MAN เป็นต้น ที่่กล่าวมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็น ปัญญาประดิษฐ์ ทั้งสิ้น
   ในช่วงก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก อย่าง Google, Facebook, Apple, Samsung ฯลฯ ได้ไล่ซื้อกิจการที่ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI อยู่บ่อยๆ แต่สำหรับครั้งนี้ เป็นคราวของ ผู้ผลิตชิปเซ็ตชื่อดัง อย่าง Qualcomm บ้าง โดยออกมาประกาศ เข้าซื้อกิจการ Scyfer ที่ทำ Machine Learning จากประเทศเนเธอร์แลนด์ และ วางแผนจะนำเทคโนโลยี AI ไปใช้กับด้านต่างๆ อาทิ ด้านการผลิตในอุตสาหกรรม, ด้านสาธารณสุข, ด้านการเงิน เป็นต้น
   สำหรับการลงทุนซื้อกิจการของ Qualcomm ในครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของเรา และจะถูกนำมาทำงานแทนมนุษย์ ในบางสาขา อาจส่งผลให้มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ เพื่อพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีนี้

ที่มา: https://news.thaiware.com/11100.html

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เกมเมอร์เตรียมเฮ แอพฯ Discord เริ่มทดสอบระบบวีดีโอคอล และแบ่งปันหน้าจอแล้ว





   แอพฯ  Discord โปรแกรมแชทที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ มีจุดเด่นตรงที่สามารถแสดงข้อมูลว่าผู้ใช้งานที่ออนไลน์กำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ สามารถสร้างกลุ่มสนทนาด้วยเสียงหรือข้อความได้ ที่สำคัญมันยังเป็นโปรแกรมฟรีอีกด้วย แถมคุณภาพเสียงของโปรแกรมก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่โปรแกรม Discord จะได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์เป็นอย่างมากภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากเปิดตัว
   ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาผู้พัฒนา Discord ได้เปิดให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินเพิ่อเพิ่มลูกเล่นได้ในราคา $5/เดือน (ประมาณ 170 บาท) โดยผู้ที่จ่ายเงินจะสามารถตั้งรูปโปรไฟล์เป็นภาพเคลื่อนไหวได้, มีอีโมจิเพิ่ม และอัพโหลดไฟล์ได้ใหญ่ขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อเดือนก่อนได้มีนักลงทุนได้ระดมเงินเพิ่มให้อีก $50 ล้านดอลลาร์ ด้วยเงินทุนจำนวนนี้ทำให้ Discord สามารถเริ่มทดสอบลูกเล่นที่มีคนรีเควสเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือ วิดีโอคอล และการแบ่งปันหน้าจอ
   ในขณะนี้คุณสมบัติดังกล่าวได้เริ่มทดสอบในกลุ่มผู้ใช้งานประมาณ 5% ก่อน เพื่อทดสอบว่าเซิฟเวอร์จะสามารถรองรับปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ได้หรือไม่ เนื่องจากขนาดข้อมูลของการวีดีโอคอลนั้นสูงกว่าการสนทนาเสียงเป็นอย่างมาก




   สำหรับการใช้งานวิดีโอคอล และการแบ่งปันหน้าจอ เบื้องต้นจะเป็นการสนทนาแบบ 1:1 ก่อน หรือหากเป็นแบบกลุ่มจะสร้างได้สูงสุดไม่เกิน 10 คน (ทางทีมผู้พัฒนาแนะนำว่าควรไม่เกิน 5 คน เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด) การสลัับภาพจากกล้องของเว็บแคมและหน้าจอสามารถทำได้ตลอดเวลา หรือจะให้แสดงผลภาพพร้อมกันแบบ Picture-in-Picture ก็ได้

   คุณสมบัติใหม่นี้คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ทุกคน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ก็อดใจรอกันไปก่อนจนกว่าผู้พัฒนาจะทดสอบระบบเสร็จ เชื่อว่าอีกไม่นานนี้อย่างแน่นอน